คุณเป็นแบบไหน ในตำแหน่ง "หัวหน้างาน"


บทบาทของผู้นำรูปแบบต่างๆ (Leadership Styles) ที่ผู้เป็นหัวหน้าเลือกนำมาใช้กับลูกน้องในการทำงานนั้น มีความแตกต่างกันในแง่ของการกำหนดทิศทางของการทำงาน การวางแผนการทำงาน รวมถึงการสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้ลูกน้อง ความเหมาะสมกับการนำมาใช้กับประเภทของลูกน้อง และสถานการณ์การทำงานที่แตกต่างกันออกไป
ผู้เป็นหัวหน้าที่ดีควรรู้จักเลือกใช้บทบาทความเป็นผู้นำที่เหมาะสมกับการทำงานแต่ละงาน เคิร์ท เลวิน (ค.ศ. 1939) นักวิชาการชาวเยอรมัน-อเมริกัน ผู้บุกเบิกแนวคิดเกี่ยวกับจิตวิทยาสังคม องค์กร และจิตวิทยาประยุกต์ ได้จำแนกบทบาทของผู้นำสำหรับผู้เป็นหัวหน้าออกเป็นสามรูปแบบ ได้แก่

1. หัวหน้าแบบยึดถืออำนาจ (Authoritative)
คือบทบาทที่หัวหน้ามีอำนาจการตัดสินใจเด็ดขาดแต่เพียงผู้เดียว การใช้บทบาทผู้นำรูปแบบนี้ หัวหน้าจะมอบหมายหน้าที่แบบเฉพาะเจาะจงให้ลูกน้อง แล้วลูกน้องนำไปปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมาย
เมื่อใดจึงจะใช้บทบาทหัวหน้าแบบยึดถืออำนาจ ผู้เป็นหัวหน้าควรเลือกใช้บทบาทผู้นำรูปแบบนี้ก็ต่อเมื่อตนเองทราบ และเข้าใจดีแล้วว่าในภารกิจการทำงานนี้ ต้องทำอะไรอย่างไรบ้าง และสามารถชี้แจงหรือสอนงาน (Coaching) ให้ลูกน้องทราบได้ว่าต้องทำอะไรบ้าง
ใช้ในกรณีที่การทำงานใดงานหนึ่งอาจมีเวลาจำกัดมากและไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งระดมสมองกัน แต่ตัวลูกน้องเองก็มีความกระตือรือร้นที่จะปฏิบัติตามที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว สั่งการแล้วทำได้เลย
นอกจากนี้หัวหน้าอาจใช้บทบาทผู้นำรูปแบบนี้กับพนักงานใหม่ ที่กำลังเรียนรู้งานและยังไม่ทราบว่าทิศทางการทำงานที่ควรจะเป็น เป็นอย่างไรบ้าง อย่างไรก็ตาม
การใช้ภาวะผู้นำรูปแบบนี้ไม่ใช่การเอาแต่ออกคำสั่ง ใช้อำนาจ วางตัวเหนือลูกน้องมากจนเกินเหตุ และใช้คำพูดที่แสดงความไม่ให้เกียรติลูกน้องตนเอง
ซึ่งทั้งหมดนี้แสดงถึงความไม่เป็นมืออาชีพของหัวหน้าคนนั้น ซึ่งไม่มีลูกน้องคนไหนเต็มใจอยากจะทำงานด้วยแน่นอน

2. หัวหน้าแบบประชาธิปไตย (Participative)
คือบทบาทที่หัวหน้าเปิดโอกาสให้ลูกน้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในกระบวนการทำงาน ลูกน้องแต่ละคนสามารถนำเสนอแนวคิดที่ตนคิดว่าเป็นประโยชน์ในการทำงานได้ อย่างไรก็ตาม หัวหน้าจะเป็นผู้ดำเนินการตัดสินใจในขั้นสุดท้ายเสมอ
เมื่อใดจึงจะใช้บทบาทหัวหน้าแบบประชาธิปไตย ในการทำงานเป็นทีมนั้น สมาชิกในทีมทุกคนอาจมีความรู้ความสามารถ จุดอ่อนจุดแข็งต่างกัน ดังนั้นจึงค่อนข้างเป็นไปไม่ได้ว่าสมาชิกเพียงคนใดคนหนึ่งของทีม รวมทั้งตัวหัวหน้าเองจะสามารถทำทุกอย่างให้ดีได้ด้วยตนเองเพียงคนเดียว
การใช้ภาวะผู้นำแบบเปิดโอกาสให้ลูกน้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนี้ หัวหน้าอาจเข้าใจดีว่าสิ่งที่เป็นเป้าหมาย และทีมต้องการที่จะบรรลุผลคืออะไร แต่อาจจะไม่ทราบว่า จะทำอย่างไรจึงจะบรรลุเป้าหมายนั้นๆ ได้ จึงต้องอาศัยความรู้ความสามารถของสมาชิกทีมแต่ละคนในการดำเนินพันธกิจที่สมาชิกทุกคนในทีมมีร่วมกัน จึงเป็นการเปิดโอกาสให้ลูกน้องแต่ละคนได้ใช้ศักยภาพและความเป็นมืออาชีพของตนอย่างเต็มที่ และมีความรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของทีมอยู่เสมอ

3. หัวหน้าแบบเสรีนิยม (Delegative)
เป็นบทบาทที่เปรียบได้กับการปกครองแบบเสรีนิยม ถ้าจะนิยามบทบาทของหัวหน้ารูปแบบนี้ก็หมายถึงการที่หัวหน้าได้มอบอำนาจในการดำเนินการให้กับลูกน้องอย่างสมบูรณ์แบบ โดยที่ตัวหัวหน้าเองยังคงต้องเป็นผู้รับผิดชอบในผลของการดำเนินการของลูกน้องที่ตนได้มอบหมายอำนาจให้ดำเนินการใดๆ ไปแล้ว
เมื่อใดจึงจะใช้บทบาทหัวหน้าแบบเสรีนิยม เนื่องจากการมอบหมายอำนาจให้ลูกน้องดำเนินการใดๆ แทนตนเองนั้น หัวหน้ายังคงต้องเป็นผู้รับผิดชอบต่อผลของการดำเนินการและไม่สามารถกล่าวโทษลูกน้องได้หากเกิดความผิดพลาด
การใช้บทบาทผู้นำรูปแบบนี้จึงไม่ควรใช้แบบไม่ยั้งคิด แต่ต้องใช้อย่างชาญฉลาด การจะมอบหมายอำนาจหน้าที่ให้ใครนั้นต้องพิจารณาแล้วว่าผู้รับมอบหมายคนนั้นมีความรับผิดชอบ มีความเป็นมืออาชีพ และมีความรู้ความสามารถในงานที่ได้รับมอบหมายดีกว่าตนเอง และอาจรวมถึงผู้ที่เป็นพนักงานอาวุโสที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานเฉพาะด้านมากกว่า
ข้อดีของการที่หัวหน้าใช้บทบาทผู้นำรูปแบบนี้กับลูกน้องก็คือ ตัวลูกน้องที่ได้รับมอบหมายอำนาจให้ดำเนินการใดๆ ได้นั้นจะสามารถใช้ความรู้ความสามารถเฉพาะทางที่ตนมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ และตัวหัวหน้าเองก็มีเวลามากพอที่จะไปทำภาระกิจอื่นๆ ที่ตนยังต้องลงมือทำด้วยตนเองและอาจเป็นสิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งที่ได้มอบหมายให้ลูกน้องทำ ก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานของทีมงาน

เห็นได้ว่ารูปแบบของบทบาทผู้นำแต่ละรูปแบบของผู้เป็นหัวหน้านั้นมีความเหมาะสมที่จะใช้กับลูกน้องและสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป
ดังนั้น หัวหน้าที่ดีไม่ควรยึดติดกับบทบาทผู้นำรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งมากเกินไป แต่ควรรู้จักปรับใช้ให้เหมาะสมตามสถานการณ์และสภาวะแวดล้อมของการทำงาน

ที่มา : th.jobsdb.com
บทความอื่นๆ เพิ่มเติม ได้ที่ www.impressionconsult.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 มิติคุณภาพบริการ

10 มิติคุณภาพบริการ

เทคนิคมีบุคลิกภาพที่ดีในที่ทำงาน