สร้างกำลังใจให้ลูกน้องที่กำลังหมดไฟ


ถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับคนทำงานหรือพนักงานในออฟฟิศที่เมื่ออยู่มาถึงจุดหนึ่งก็เริ่มที่จะรู้สึกเบื่อหน่ายในงานที่ทำ เพราะมีความซ้ำซากจำเจ และมีชีวิตอยู่ในแบบเดิมๆ ทุกวัน ที่เช้าก็ต้องมาเข้าทำงานให้ทันเวลา เมื่อเที่ยงก็ออกไปกินข้าว ตกเย็นก็กลับบ้าน เป็นแบบนี้อยู่ทุกวันจนก้าวสู่แรมเดือนต่อเนื่องเป็นแรมปี ย่อมเป็นเรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดาพร้อมกันอยู่ในตัว ที่ธรรมดาก็คือเป็นเรื่องปกติที่คนเราย่อมต้องมีความเบื่อหน่ายกันบ้างเป็นธรรมดาของชีวิตที่ต้องพบเจอแต่สิ่งเดิมๆ อยู่ทุกวัน แต่ที่ไม่ธรรมดาตรงที่ว่าดันมาเกิดกับการทำงานในบริษัทนี่สิถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมากพอสมควร

ในบริษัทที่ถือว่าเป็นองค์กรทางธุรกิจที่มีการแข่งขันกันสูงนั้น ความสำเร็จส่วนหนี่งจะวัดกันที่ความสามารถของพนักงาน และจะเกิดผลเสียขนาดไหนถ้าลูกน้องของคุณจู่ๆ ก็เกิดขาดแรงจูงใจในการทำงานขึ้นมาซะเฉยๆ เราจึงมีวิธีการแก้ไขสถานการณ์เมื่อลูกน้องเกิดหมดไฟและขาดแรงจูงใจในการทำงานมาบอกกัน

ก่อนอื่นต้องสำรวจปัญหาเป็นอันดับแรกหาข้อมูลว่าทำไมลูกน้องถึงหมดไฟในการทำงาน มีปัญหาส่วนตัว หรือปัญหาในสถานที่ทำงานหรือไม่การสำรวจปัญหาเป็นสิ่งที่ควรดำเนินการก่อนเป็นอันดับแรก โดยการหาข้อมูลว่าทำไมลูกน้องคนดังกล่าวถึงหมดไฟในการทำงานมีปัญหาในเรื่องอะไรหรือเปล่า ทั้งในเรื่องส่วนตัว หรือปัญหาในสถานที่ทำงานและปัญหากับผู้ร่วมงานคนอื่นๆ เกี่ยวข้องกับหน้าที่ในการทำงานในส่วนไหนหรือไม่อย่างไร เช่น หน้าที่ที่คุณมอบหมายให้ไม่ใช่สิ่งที่ชอบและถนัดของพนักงานคนดังกล่าว เลยทำให้ไม่มีใจในสิ่งที่ทำจนเป็นเหตุให้หมดไฟในการทำงานในที่สุด

ซึ่งวิธีการสำรวจหาต้นกำเนิดของปัญหานี้ทำได้ง่ายมาก โดยคุณผู้เป็นเจ้าของบริษัทต้องคอยหมั่นสังเกตและตรวจสอบพฤติกรรมของลูกน้องที่มีปัญหาคนดังกล่าวว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากอะไร หรือวิธีที่สองคือ การสอบถามจากพนักงานรายอื่นๆที่เป็นเพื่อนร่วมงานกันกับพนักงานคนดังกล่าว เมื่อทราบปัญหาแล้วจะได้ทำการแก้ปัญหาได้ถูกจุด โดยวิธีการแก้ปัญหาที่ลูกน้องหมดไฟในการทำงานมีดังต่อไปนี้

1. พูดคุยและให้กำลังใจ
การพูดคุยและให้กำลังใจพนักงานเป็นสิ่งที่สามารถทำได้โดยง่ายที่สุด เพียงคุณผู้เป็นเจ้าของหรือนายจ้างเดินเข้าไปสอบถามและพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร และจะให้ช่วยเหลือในส่วนไหนบ้างที่จะทำให้ลูกน้องคนดังกล่าวเกิดแรงกระตุ้น แรงจูงใจที่จะทำงานอีกครั้งด้วยการพูดจาที่เป็นกันเอง แต่คุณควรพึงระวังไว้สักนิดว่าในการเข้าไปพูดคุยนั้น คุณควรเข้าไปในฐานะเพื่อนหรือผู้ร่วมงานที่ทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันที่พร้อมจะให้ความเข้าใจและช่วยเหลือในทุกเรื่อง ไม่ควรจะเข้าไปในฐานะเจ้านายกับลูกน้องเพราะบางทีคุณอาจจะยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นก็เป็นได้

2. ย้ายแผนก
การย้ายแผนกนี้เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่แรงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดมาจากการที่คุณไปสืบทราบมาว่าแผนกในปัจจุบันที่ลูกน้องคนดังกล่าวปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ตัวของพนักงานเองมีความถนัดเป็นพิเศษแต่อย่างใด จึงสมควรที่จะย้ายไปยังตำแหน่งที่มีความเหมาะสมมากกว่านี้ หรือถ้าเกิดจากความขัดแย้งกับพนักงานคนอื่นๆในแผนกนี้ก็สามารถที่จะย้ายไปทำงานยังแผนกอื่นได้ แต่ควรต้องแน่ใจให้ดีเสียก่อนว่าพนักงานคนดังกล่าวจะไม่ไปสร้างปัญหายังแผนกอื่นอีก

3. เปลี่ยนบรรยากาศ
จัดที่ทำงานใหม่การจัดสถานที่ทำงานใหม่  จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์ในการทำงานวิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ดีมากอีกวิธีหนึ่งที่สามารถสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้ลูกน้องได้ดี เพราะการเปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ จัดสถานที่ภายในห้องทำงานใหม่ให้รับกับบรรยากาศภายนอกจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์ในการทำงาน ช่วยลดความเบื่อหน่ายและซ้ำซากจำเจในเวลาทำงานที่อยู่ในสถานที่แบบเดิมๆได้ดีทีเดียว

4. ส่งไปอบรมสัมมนา
การส่งไปอบรมสัมมนาในตามงานต่างๆ ที่จัดขึ้นเป็นวิธีการแก้ไขที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะการที่ส่งพนักงานไปอบรมสัมมนาจะช่วยสร้างความรู้ให้ก่อเกิดกับตัวพนักงานเองถือว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาของพนักงานเพื่อนำมาสร้างไอเดียและแรงจูงใจใหม่ๆให้เกิดขึ้นและจะได้นำความรู้ที่ได้รับจากการสัมมนาดังกล่าวมาใช้กับการทำงานของตัวพนักงานเองและจะมีส่วนต่อการพัฒนาบริษัทในอนาคตอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีผลทางจิตวิทยาต่อตัวพนักงานเองด้วย เพราะการที่ถูกส่งไปในนามของทางบริษัทจะทำให้ตัวพนักงานคนดังกล่าวเห็นว่าตัวเองมีความสำคัญกับทางบริษัทมากขนาดไหนด้วย

5. ขึ้นเงินเดือน
ถ้าเปรียบวิธีการแก้ปัญหาลูกน้องหมดไฟ  ในการทำงานเป็นยาชนิดต่างๆ แล้ว 4 วิธีก่อนหน้านี้ จะเป็นเพียงแค่ยาเม็ดที่ใช้ทานเท่านั้น แต่วิธีการแก้ปัญหาลูกน้องหมดไฟในการทำงานด้วยวิธีขึ้นเงินเดือนจะถือเป็นยาที่ใช้ฉีดโดยเข็มเข้าไปสู่เส้นเลือดใหญ่โดยตรง เป็นยาขนานแรงที่หลายบริษัทใช้ในการแก้ไขปัญหานี้ดังกล่าวและประสบความสำเร็จอย่างสูงมาโดยตลอดด้วยวิธีการนี้ เพราะบ่อยครั้งที่พนักงานหมดไฟไม่อยากที่จะทำงานเพราะเห็นว่าตนเองทำงานหนักและเหนื่อยมากกว่าหลายเท่าตัวนักเมื่อเทียบกับเงินเดือนที่ได้ จึงเกิดความท้อถอยบ่อยครั้งและอาจจะมองหาสถานที่ทำงานใหม่อยู่ก็เป็นได้จึงทำงานให้กับคุณไม่เต็มที่นัก ซึ่งการขึ้นเงินเดือนบางครั้งอาจจะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกจุดนัก แต่ถือเป็นการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด

6. ให้ลาพักร้อน
การให้ลูกน้องได้ลาพักร้อนเปรียบเสมือนการให้ชาร์ตไฟในตัวหลังจากอ่อนล้าจากการทำงานการให้ลูกน้องที่มีปัญหาในเรื่องนี้ได้ลาพักร้อนไม่ว่าจะเป็นระยะสั้นหรือระยะยาว แบบมีกำหนดหรือไม่มีกำหนดก็ตาม เป็นวิธีการแก้ปัญหาแบบสุดท้ายที่พึงจะกระทำได้สำหรับการแก้ปัญหาในเรื่องนี้ โดยการให้ลูกน้องได้ลาพักร้อนก็เพื่อให้ได้พักผ่อนได้เต็มที่จากการทำงาน เปรียบเสมือนการได้ชาร์ตไฟไปในตัวหลังจากที่เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้ามาจากการทำงานตลอดเวลาอันยาวนาน และอาจจะทำให้พนักงานคนดังกล่าวได้คิดทบทวนสร้างทัศนคติใหม่ๆที่ดีในการทำงานก็เป็นได้ ซึ่งการเข้าไปพูดคุยในเรื่องการลาพักร้อนกับลูกน้องควรทำด้วยความระมัดระวังเพราะอาจสร้างความเข้าใจผิดขึ้นมาก็เป็นได้

บางครั้งการหมดไฟในการทำงานของลูกน้องของคุณอาจจะมาจากสาเหตุที่คุณคาดไม่ถึงก็ได้ ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดที่จะแก้ปัญหาก็คือ การป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นน่าจะมีประโยชน์มากกว่า ควรสร้างแรงจูงในการทำงานให้เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพื่อที่จะให้ผลการทำงานของลูกน้องคุณออกมาดีอยู่เสมอ อีกทั้งยังเป็นการแก้ปัญหาดังกล่าวไม่ให้เกิดขึ้น แต่สำหรับลูกน้องบางคนก็อาจจะมีวิธีการแก้ปัญหาง่ายกว่าที่คิด เพียงแค่คุณให้ความเคารพในสิทธิขั้นพื้นฐานที่เจ้านายพึงจะมีกับลูกน้องเรื่องดังกล่าวก็อาจจะไม่เกิดขึ้นมาก็เป็นได้

ที่มา : hrtothai.com
บทความอื่นๆ เพิ่มเติม ได้ที่ www.impressionconsult.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 มิติคุณภาพบริการ

10 มิติคุณภาพบริการ

เทคนิคมีบุคลิกภาพที่ดีในที่ทำงาน