สร้างกำลังใจให้พนักงาน


ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก กลาง หรือใหญ่ ไม่ว่าคุณจะเป็นฝ่ายบุคคลในบริษัท หรือจะอยู่ในตำแหน่งที่มีลูกน้องไม่ว่าจะกี่คน คุณคงจะทราบดีว่า งานบริหารทรัพยากรบุคคลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญมากที่นายจ้างทุกคนจะต้องหันมาดูแลและทุ่มเทในการดูแลทรัพยาบุคคลของตัวเอง เชื่อเถอะค่ะว่า ต่อให้นายจ้างมีเครื่องจักร 100 เครื่อง แต่ถ้าปราศจากบุคลากรคุณภาพที่จะมาควบคุมแล้วละก็ ธุรกิจก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จไปได้อย่างแน่นอน แล้วอะไรล่ะที่ลูกจ้างส่วนใหญ่ต้องการ

1. สวัสดิการดีที่ดี
คนสมัยนี้ทุ่มเทกับการทำงาน ใช้เวลาร่วมสิบกว่าชั่วโมงในแต่ละวัน  เพื่อผลักดันให้เกิดความสำเร็จขององค์กร คงจะดีไม่น้อย ถ้านายจ้างหันมาดูแลพนักงาน ด้วยการมอบสวัสดิการดีๆ ให้เพื่อเป็นการตอบแทนความพยายามที่พนักงานมีให้กับองค์กร เช่น สวัสดิการกู้ยืมเพื่อการศึกษาต่อ สวัสดิการดูแลยามเจ็บป่วย รวมไปถึงสวัสดิการด้านการสันทนาการอื่นๆ เท่าที่บริษัทจะเอื้ออำนวยให้ได้ เช่น รถรับส่งพนักงาน หรือสถานที่ออกกำลังกาย เป็นต้น

2. สัมนานอกสถานที่ (outing)
ขอคัดค้านแบบหัวชนฝา ถ้าใครบอกว่าการพาพนักงานไปพักผ่อนนอกสถานที่ไม่สำคัญ การพาพนักงานไปชิม อยู่ เที่ยวและมีกิจกรรมภายในองค์กรที่สร้างสรรค์ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในองค์กรนี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่นายจ้างควรจัดให้มี อย่างน้อยปีละครั้ง จะใกล้ หรือไกลแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละองค์กร การสัมนานอกสถานที่ในบรรยากาศดีๆ จะทำให้บรรยากาศในองค์กรมีความผ่อนคลาย มีการเปิดใจคุยกัน พนักงานและหัวหน้าจะกล้าเปิดใจเข้าหากันมากขึ้น ซึ่งจะทำให้พนักงานมีขวัญและกำลังใจในการทำงานมากขึ้นอย่างแน่นอน

3. รางวัลตอบแทน
พนักงานที่ทำความดีและสร้างประโยชน์ให้องค์กร ย่อมสมควรได้รับการตอบแทนที่เหมาะสม บริษัทอาจจัดให้มีการโหวตตำแหน่งพักงานดีเด่น หรืออาจจะพิจารณาจาก performance ของพนักงานว่าเข้าเป้า KPI ที่ตั้งไว้หรือไม่ ประการใด ที่สำคัญวิธีการตัดสิน ต้องเป็นไปอย่างยุติธรรมและถูกต้อง มิเช่นนั้น แทนที่จะเป็นการให้กำลังใจพนักงานอาจกลายเป็นเรื่องดราม่าประจำองค์กรไปได้

4. การจัดอบรมส่งเสริมทักษะพิเศษเพิ่มเติม
โลกสมัยนี้เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นทุกวัน นอกเหนือจากความรู้ที่มีอยู่แต่เดิมแล้ว บริษัทควรส่งเสริมให้พนักงานในองค์กรได้มีการเรียนรู้ทักษะอื่นที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็นการอบรมในแง่ความรู้ที่เอามาใช้ในการปฏิบัติงานเช่น อบรมพัฒนาทักษะด้านคอมพิวเตอร์ อบรมพัฒนาทักษะด้านภาษา หรืออาจจะเป็นการอบรมเพื่อเพิ่มความสามารถอื่นๆ ให้พนักงาน เช่น อบรมการวาดภาพระบายสีน้ำ หรือ อบรมการทำเทียนหอม ฯลฯ เป็นต้น

5. การปรับเงินเดือน และโบนัสประจำปี
แน่นอนว่าทุกคนที่ทำงานก็หวังผลตอบแทนด้วยกันทั้งนั้น แหม ทำงานนะคะ ไม่ใช่ทำการกุศล ดังนั้นปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนหนึ่ง (หรืออาจจะส่วนใหญ่) แรงจูงใจในการทำงานของทุกคนคือ “เงิน”
ดังนั้นเมื่อมีการรับพนักงานคนหนึ่งเข้าร่วมงาน ก่อนอื่นองค์กรควรพิจารณาเงินเดือนแรกเข้าของพนักงานแบบพอใจด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในภายหลัง และเมื่อทำงานมาถึงระยะที่ต้องมีการประเมินผลงาน และปรับฐานเงินเดือน ก็ควรประเมินด้วยความยุติธรรมและโปร่งใส เพื่อไม่ให้พนักงานเสียความรู้สึก สุดท้ายคือเงินโบนัส ที่พนักงานทุกคนรอคอยในทุกปี องค์กรไม่ควรละเลยความสำคัญและควรมีการมอบให้อย่างเหมาะสม อย่าพยายามหาข้ออ้างมาเลื่อน หรือไม่ให้พนักงานที่เหนื่อยมาทั้งปีเพื่อคุณ เป็นใครก็คงห่อเหี่ยวไปตามกัน เพราะถ้าพลาดไปต้องรออีกทั้งปี อาจจะลาออกกันไปก่อนอย่างแน่นอน

สุดท้ายนี้ ต้นทุนในการรับพนักงานใหม่นั้นสูงกว่าการรักษาพนักงานที่คุณภาพเดิมให้คงอยู่กับบริษัทนาน ๆ ดังนั้นการดูแลรักษาพนักงานของคุณไว้ให้ดีเถอะค่ะ ไม่มีบริษัทไหนเติบโตและประความสำเร็จได้ โดยปราศจากทรัพยากรบุคคลที่ดี

ที่มา : th.jobsdb.com
อ่านเพิ่มเติม ได้ที่ www.impressionconsult.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 มิติคุณภาพบริการ

10 มิติคุณภาพบริการ

เทคนิคมีบุคลิกภาพที่ดีในที่ทำงาน