บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มกราคม, 2016

วิธีรับมือเมื่อต้องไปสัมภาษณ์งาน

รูปภาพ
1. มั่นใจก่อน การสัมภาษณ์งานมิจำเป็นต้องตอบคำถามให้ถูกต้องทุกข้อ แต่การสัมภาษณ์นั้น ผู้ทำการสัมภาษณ์ต้องการจะดูว่า เรานั้นมีบุคลิกภาพน่าเชื่อถือหรือไม่ เหมาะสมกับการที่เขาจะฝากบบริษัทไว้ให้เราช่วยดูแลหรือไม่ ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องมีคือ ความมั่นใจ 2. กระฉับกระเฉง ในขณะที่พูดคุยสัมภาษณ์นั้น บุคลิกคำพูดที่เราเปล่งออกไปมันต้องมีพลัง คล่องแคล่ว ไม่ช้า ไม่เฉื่อย เพราะไม่มีใครอยากได้คนหมดพลังมาทำงานด้วย 3. สิ่งที่ต้องเตรียมตัว คือการแนะนำตัว แนะนำประวัติตนเอง โดยต้องดึงจุดเด่นของตนเองออกมาให้ได้ ถ้าเรานึกไม่ออกก็ขอให้ไปถามเพื่อนดูว่า เขาคิดว่าเรามีจุดเด่นตรงไหน นั่นแหละครับ คือคำตอบ จุดเด่นที่ดีควรเกี่ยวข้องกับงาน หรือกิจกรรมพิเศษที่นอกเหนือไปจากการเรียนหนังสือ เช่น เป็นประธานชมรม เป็นเชียร์ลีดเดอร์ ทำงานระหว่างเรียน ช่วยพ่อแม่ขายของตั้งแต่เล็ก อะไรประมาณนี้  เพราะการช่วยพ่อแม่หรือทำงานในระหว่างเรียน แสดงถึงการมีประสบการณ์ในการขาย/บริการ/ทำงานกับผู้อื่น/ลูกค้า การทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัยแสดงถึงคนมีประสบการณ์ในการทำงานหรือเป็นคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นพื้นฐาน 4. คำต

อบรมการบริการลูกค้าได้ผลจริงหรือ

รูปภาพ
โดย พิสิทธิ์ พิพัฒน์โภคากุล ขอบอกเลยครับว่า จากประสบการณ์ในการทำงานที่ปรึกษาด้านการพัฒนาบริการให้เป็นเลิศมากว่า 10 ปีว่า อบรมการบริการลูกค้าได้ผลจริง !! การได้ผลจริงนั้น มีสิ่งที่ต้องพึงระวัง เพื่อไม่เข้าไปตกสู่หลุมดำ ใน 5 หลุมนี้ครับ หลุมที่ 1. เน้นปริมาณ คือ เน้นจำนวนคนเข้าอบรมเยอะๆ ไว้ก่อน มีหลากหลายตำแหน่ง อบรมไปพร้อมๆ กัน แบบนี้จะทำให้การที่พนักงานจะมีแรงบันดาลใจ และทักษะในการบริการลูกค้าได้ไม่ครอบคลุมทุกคน หลุมที่ 2. 4 ปีครั้ง การอบรมการบริการลูกค้า เพื่อให้ได้ผลในการส่งมอบบริการที่ดีให้แก่ลูกค้านั้น ควรมีการจัดอบรมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง มิใช่ 4 ปีครั้ง เพราะความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนไปทุกวันและไม่มีที่สิ้นสุด พนักงานจึงควรก้าวนำหน้าลูกค้าไปอย่างน้อย 1 ก้าว หลุมที่ 3. ได้ข้อคิด แต่ไม่ได้วิธีปฏิบัติ ในการอบรมมิใช่เพียงแต่การทำให้ฉุกคิด หรือการทำให้เกิดเสียงฮา เท่านั้น แต่ต้องให้เกิดทักษะพฤติกรรม วิธีปฏิบัติ ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานให้บริการลูกค้าได้จริง หลุมที่ 4. ขาดการส่งเสริม หลังจากการอบรมแล้ว จำเป็นต้องมีการส่งเสริมให้ทุกคนได้ นำเอาสิ่งที่ควรป

6 วิธีแสดงศักยภาพในการทำงานให้ถูกที่ ถูกเวลา

รูปภาพ
นั่งทำงานหนักมาก็หลายปี ซื่อตรงต่อหน้าที่ ไม่เคยบิดพลิ้วแม้แต่น้อย ใคร ๆ ก็บอกว่าเราทำงานเก่ง มีศักยภาพในการทำงานอย่างดีเยี่ยม แต่ทำม้ายยย…ทำไมไม่เติบโตในหน้าที่สักทีนะอย่าให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นกับตัวคุณเพราะนอกจากจะคอยบั่นทอนประสิทธิภาพในการทำงานให้ค่อย ๆ ลดหายไป ยังจะทำให้คุณไร้กำลังสร้างผลงานที่ดีออกมาด้วย เพราะฉะนั้น การรู้จักจังหวะในการแสดงฝีมือให้เจ้านายและคนในทีมเห็นความสามารถ จึงเป็นกำลังใจสำคัญให้พร้อมทำงานอย่างเต็มที่ มาดูวิธีเพื่อให้คุณแสดงศักยภาพในการทำงานให้ถูกที่ ถูกเวลา แล้วจะรู้ว่า จังหวะชีวิตดี ๆ เรื่องงานนั้นมีอยู่จริง 1. แสดงความคิดเห็นในที่ประชุม ในการประชุมแต่ละครั้ง ที่ประชุมย่อมคาดหวังความคิดเห็นจากทีมงาน เพื่อนำมาพัฒนาหรือแก้ไขงานให้เกิดสิ่งที่ดีขึ้น การที่คุณเป็นคนเก่งที่นั่งเงียบ ได้แต่แสดงความคิดเห็นดี ๆ อยู่ในใจ คงไม่ช่วยให้ใครเห็นศักยภาพทางความคิดของคุณเป็นแน่ ขอให้ใช้โอกาสนี้แชร์สิ่งที่คุณคิดให้ทุกคนได้รับรู้ ถึงแม้จะไม่เป็นความคิดที่ดีที่สุด แต่รู้ไหมคะว่า อาจช่วยให้ทีมงานเห็นทางออกหรือต่อยอดงานที่กำลังทำให้แจ่มแจ๋วขึ้นเลยก็ได้ โปรดปลดปล่อยควา

KPI กำหนดจากอะไรได้บ้าง

รูปภาพ
ช่วงต้นปีก็เป็นฤดูกาลแห่งการตั้งเป้าหมายและถ่ายทอดกลยุทธ์ แผนงานประจำปีลงสู่หน่วยงานและระดับบุคคล หลายองค์กรก็กำลังตั้งค่าตัวชี้วัดผลการปฏิบัติงาน หรือ KPI เพื่อแจกจ่ายให้หน่วยงานและบุคลากรได้รับทราบว่าองค์กรมีความคาดหวังอะไรจากการทำงานในแต่ละระดับหน่วยธุรกิจ เป็นโจทย์ที่องค์กรตั้งไว้เพื่อให้คนทำงานได้ทราบและนำไปปฏิบัติเพื่อตอบโจทย์นั้น ๆ เหมือนเป็นการบอกแนวข้อสอบรวมทั้งระบุหลักเกณฑ์การให้ตัดสินให้คะแนนในการตรวจข้อสอบด้วย ที่นี้ เราลองมาดูกันหน่อยว่า การตั้ง  KPI  นั้นเราสามารถจะกำหนดตัวชี้วัดผลงาน ( Key Performance Indicator)  จากอะไรได้บ้าง หรือควรจะนำสิ่งใดมาเป็นหลักเกณฑ์ในการวัดผลลัพธ์จากการทำงานของคนทำงานถึงจะดี ลองพิจารณาประเด็นเหล่านี้ ได้แก่ 1.  KPI  จากแผนงานหรือแผนปฏิบัติการ ( Action Plan)  ประจำปี ซึ่งเป็นการกระจายจากบนลงล่าง ( Top Down Deployment)  จากวิสัยทัศน์ พันธกิจ กลยุทธ์ จนกระทั่งมาสู่ หน่วยงาน คนทำงาน กำหนดให้ชัดเจนว่าข้อไหนเป็นความรับผิดชอบของหัวหน้า ลูกน้อง หรือเป็นเจ้าของตัวชี้วัดร่วมกัน เรียกได้ว่าเป็นการวัดความสำเร็จของงานที่สอดคล้องตามเป้าหมายใหญ่

กำจัดนิสัย 4 ข้อ งานเสร็จชัวร์

รูปภาพ
1. พยายามทำทุกอย่างด้วยตนเอง การพยายามทำงานที่ยากเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าอยากเป็นคนที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Productive) หรือทำงานที่ได้รับมอบหมายเสร็จ เราควรที่จะต้องปฏิเสธงานที่เราไม่สามารถทำมันได้จริงๆ ถ้าเป็นหัวหน้าหรือเจ้าจองกิจการที่มีลูกน้อง ก็ควรมอบหมายงานให้คนอื่น เพื่อที่เราจะได้โฟกัสกับงานสำคัญจริงๆ การรู้ขีดจำกัดของตนเอง และปฏิเสธโอกาสบ้างก็จะช่วยให้เราสามารถใช้เวลาทำงานที่เราทำได้ดีมากยิ่งขึ้น 2. ขอทำให้ 100% ก่อนนะ ความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีจริง หากเรามัวแต่นั่งรอให้พร้อมก่อนถึงค่อยลงมือทำนั้น งานของเราก็ล่าช้า ซึ่งบางครั้งเราสามารถทำทั้งๆที่ไม่พร้อมได้เลย และระหว่างทางก็ค่อยๆเพิ่มเติมเอา ดูอย่าง Uber และ AirBnb เป็นตัวอย่าง พวกเขาเริ่มขยายสาขาไปต่างประเทศ ทั้งๆที่บริการ และการทำงานก็ยังไม่เรียบร้อย แต่ความพร้อมนั้นสามารถสร้างควบคู่ไปได้ 3. ปล่อยให้สิ่งกวนใจรบกวน ข้อนี้น่าจะเป็นข้อที่สำคัญสุด เพราะเวลาทำงานเรามักจะเจอกับเรื่องไม่คาดฝัน เช่น เจ้านายเรียกประชุม เพื่อนถามงาน ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ แต่มีสิ่งที่เราเลี่ยงได้การไม่เล่นโซเชียล

AEC สำคัญกับผู้ประกอบการอย่างไร

รูปภาพ
AEC กับผู้ประกอบการ ระยะหลังมานี้เรามักจะได้ยินคำว่า AEC กันอยู่บ่อยครั้ง ทั้งภาครัฐและเอกชนต่างก็ให้ความสนใจและมีความกระตือรือร้นในการเตรียมความพร้อมต้อนรับ AEC คุณในฐานะผู้ประกอบการไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่จึงควรมีความรู้เกี่ยวกับ AEC เอาไว้บ้าง เพื่อจะได้นำมาวิเคราะห์ดูว่าองค์กรของคุณจะต้องเตรียมความพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงใดบ้างหรือไม่ คุณรู้จัก AEC ดีแค่ไหน ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ ASEAN Economics Community (AEC) คือการรวมตัวของชาติต่างๆ ใน ASEAN 10 ประเทศ ประกอบไปด้วย ไทย กัมพูชา บรูไน พม่า ฟิลิปปินส์ มาเลเซียลาว เวียดนาม สิงคโปร์ อินโดนีเซีย โดยมีเป้าหมายเพื่อให้อาเซียนมีการเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุนอย่างเสรีขึ้น ยกเว้นเพียงสินค้าบางประเภทหรือที่เรียกว่าสินค้าอ่อนไหว (สินค้า ที่มีความสำคัญ และมีผลกระทบต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ซึ่งไม่ต้องการให้มีคู่แข่งมากหรือต้องการใช้เวลาเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้อุตสาหกรรมประเภทนั้น แต่ละประเทศมีสิทธิระบุบัญชีสินค้าเหล่านี้ โดยมีกรอบระยะเวลาว่าจะให้คงอัตราภาษีไปจนถึงเมื่อใด) AEC หรือประชาค

10 เทคนิคเพิ่มความน่าเชื่อถือ

รูปภาพ
1. ยอมรับความผิดพลาดของตัวเอง : หากคุณทำอะไรผิดไป ก็ยอมรับไปเลยตรงๆ แม้ว่ามันอาจจะดูน่าอายก็ตาม แต่การยอมรับความผิดพลาดอย่างจริงใจ จะทำให้ทุกคนยอมรับในตัวคุณ และช่วยเพิ่มเครดิตให้กับตัวคุณเองได้ 2. ทำ account social media ของคุณให้มีความสม่ำเสมอ : ไม่ว่าจะโพสต์อะไร หากมันมีความต่อเนื่อง และสม่ำเสมอไปในทิศทางเดียวกัน ก็จะช่วยเป็นการสร้างแบรนด์ให้กับตัวคุณเอง 3. ชมผู้อื่นอย่างจริงใจ : ใครๆก็สามารถจับได้ว่าคุณแสดงความยินดีจากใจจริงหรือเปล่า โดยคุณสามารถจะชมได้ทั้งเพื่อนร่วมงานลูกค้า หรือใครก็ตามที่อยู่รอบตัวคุณ เมื่อคนอื่นเห็นคุณชมหรือให้การยอมรับใครแล้ว เขาก็จะมีความเชื่อในตัวคุณมากขึ้น โดยคุณอาจจะใช้ Social Network เช่น LinkedIn ในการไปยืนยันความสามารถของบุคคลอื่นได้ เพราะมันจะแสดงถึงการให้ความยอมรับและให้คุณค่าในตัวคนอื่น ซึ่งจะสะท้อนกลับมาในแง่ดีสู่ตัวคุณ 4. ยอมลดลาวาศอกบ้าง : เพราะไม่ว่าคุณจะเจรจาเก่งมากแค่ไหน แต่การเอาชนะในทุกการเจรจา ไม่ได้ส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือของคุณเลย ลองพยายามพิจารณาว่า ทำไมเราถึงจะต้องเอาชนะในการเจรจาครั้งนี้ แล้วหากชนะแล้ว จะส่งผลต