IMPRESSION Training

บริษัทคือแหล่งที่รวบรวมผู้คนจากต่างเพศ ต่างวัย และต่างสาขาอาชีพเข้ามารวมอยู่ไว้ในที่แห่งเดียวกัน ซึ่งแน่นอนว่าการที่บริษัทกลายเป็นที่ชุมนุมของคนที่มีพื้นฐานและต้นทุนทางสังคมแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงขนาดนั้นย่อมมีปัญหาเกิดขึ้นมากเป็นธรรมดาทางออกที่ดีที่สุดโดยเป็นการพบกันฝ่ายละครึ่งทางระหว่างผู้ประกอบการและลูกจ้างก็คือการวางกฎระเบียบในการทำงานพร้อมทั้งกำหนดบทลงโทษเมื่อมีผู้ฝ่าฝืนกฎ สาเหตุที่ต้องทำเช่นนั้นก็เพื่อให้การดำเนิงานภายในบริษัทสามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่นที่สุดและจะเป็นตัวฉุดให้ผลการดำเนินงานของบริษัทดีขึ้นตามลำดับด้วย โดยพฤติกรรมของพนักงานที่ถือว่าเป็นอันตรายไม่ควรเกิดขึ้นในสถานที่ทำงานเป็นอันขาดและสมควรต้องมีบทลงโทษด้วย มีดังต่อไปนี้ 1. มาสาย นอนหลับ โทรศัพท์ กลับก่อน พฤติกรรมที่กล่าวมาทั้ง 4 อย่างนี้ถือเป็นเรื่องยอดฮิตในหมู่พนักงานโดยเฉพาะบรรดาวัยรุ่นทั้งหลายที่ยึดเอาตัวเองเป็นแกนหลักในการทำงาน โดยบางบริษัทอาจจะไม่คิดอะไรมากและปล่อยให้สิ่งดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติเพราะใช้การปกครองแบบเพื่อนและครอบครัว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผิดและบริษัทใหญ่ที่มีการดำเนินงานในลักษณะของ

ในขณะที่ครึ่งหนึ่งของ generation X, Y, Z ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ ก่อตั้งสตาร์ทอัพ วุ่นวายกับการเป็นนายตัวเอง แต่ก็ยังมีอีกไม่น้อย ที่ตบเท้าเข้าไปในโลกของการทำงานประจำ หรือที่เรียกกันอย่างกว้างขวางว่าลูกจ้างนั่นเอง แล้วจริงหรือที่มีหนังสือ หรือนักคิดสมัยใหม่ทั้งหลายออกมาตั้งคำถามกับสังคมว่า การทำงานประจำ หรือการเป็นลูกจ้างมืออาชีพนั้น ไม่มีทางประสบความสำเร็จ หรือกว่าจะสำเร็จก็ช้าเต็มที่ ก้าวเข้าไปวัยเกษียณซะแล้ว เรื่องแบบนี้นานาจิตตัง เถียงกันไปคงไม่มีวันจบ แต่จะบอกว่าการเป็นลูกจ้างมืออาชีพ ก็ไม่ใช่จะไม่มีวันสำเร็จในชีวิตการงานได้หรอกนะ มันอยู่ที่ว่าคุณมีความพอใจกับชีวิตที่ตรงไหน เป็นลูกจ้างก็มีด้านดีๆ มีความมั่นคงหลายอย่างที่เจ้าของธุรกิจไม่มีได้เช่นกัน แล้วทำอย่างไร จะเลื่อนความสำเร็จที่โดนค่อนขอดว่าต้องรอจนแก่ถึงจะได้รับ ให้เกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม ปฏิบัติตามคำแนะนำของเราตามนี้ให้ได้ตลอดชีวิตการทำงานของคุณ เดี๋ยวดีเอง 1. ตรงต่อเวลา ที่ทำงานไม่ใช่ห้าง คิดจะไปถึงกี่โมงก็ไป ทุกออฟฟิศมีกฎมีเกณฑ์ของแต่ละที่ จะประสบความสำเร็จได้ ก็ต้องเคารพกฏเกณฑ์ของบริษัทด้วย ตรงต่อเวลาในที่นี

ในโลกของการทำงาน แน่นอนว่า มีบางอย่างที่เราไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว แต่จำเป็นที่จะต้องอาศัยเพื่อนร่วมงานอีกหลายๆ คนทำร่วมกัน หรือที่เราเรียกกันว่า Team ซึ่งจากการสำรวจว่าผู้ประกอบการมองหาอะไรจากคนทำงานที่ทางเรา ได้จัดทำขึ้น ผลปรากฏว่าผู้ประกอบการต้องการคนที่สามารถทำงานเป็นทีมได้ถึง 50% ซึ่งมาเป็นอันดับ 2 เลยทีเดียว แต่การทำงานเป็นทีมนี่แหละที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ก็แน่ละ ร้อยพ่อพันแม่ ต่างคนต่างความคิด ต่างนิสัยใจคอ แบบนี้เราจะทำ Team อย่างไรให้ Work วันนี้ เราก็เลยมีเทคนิคง่ายๆ ที่จะทำให้คุณสร้าง Teamwork ได้สำเร็จ บรรยากาศ บรรยากาศการทำงานเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ๆ เพราะมันจะทำให้อารมณ์คนทำงานดีไปด้วย แล้วถ้าอารมณ์ของคนทำงานดี มันก็ส่งผลต่อเนื่องมาถึงการแสดงออกต่อเพื่อนร่วมงาน และส่งต่อมาถึงผลงานในที่สุด แต่บรรยากาศการทำงานในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงบรรยากาศแวดล้อมภายนอกเท่านั้น แต่เราหมายถึง การที่เราต้องสร้างอารมณ์คนในทีมเราให้ดี สดใส ไม่ขุ่นข้องหมองใจกันด้วย แต่แล้วจะทำอย่างไรละ งั้นลองมาฟังข้อต่อๆ ไปดู ความไว้วางใจ ถ้าคุณเป็นคนสร้างทีม อีกสิ่งหนึ่งที่คุณจำเป็นต้องมี

คุณเป็นคนทำงานแทบตายสุดท้ายก็ว่างเปล่า ทั้งเงินในกระเป๋า และ เรี่ยวแรงกำลัง ใช่ไหม? ถ้าใช่ละก็ ลองเปลี่ยนจาก Work hard มาเป็น Work smart กันดีกว่า อย่าให้งานเป็นเจ้าชีวิตของคุณอีกต่อไปเลยค่ะ แล้วจะทำอย่างไรละ? 1. คุณต้องเป็นคน บงการงาน ไม่ใช่งานบงการคุณ ลองจัดอันดับดูสิว่าอะไรควรทำก่อนหรือหลัง โดยหลักการง่าย ๆ เข้าออฟฟิศไปตอนเช้า คุณลิสต์ออกมาให้หมดเลยว่าวันนี้คุณต้องทำงานอะไรบ้าง แล้วก็ใส่ลำดับความสำคัญ 4 ลำดับให้แต่ละลิสงานของคุณซะ ลิสต์อะไรบ้างนะเหรอ ลองทำตามเทคนิคของ jobsDB ดูสิ งานสำคัญ และ เร่งด่วน  อันนี้ใส่ดาวไว้สามดาวเลยนะ ว่าต้องเคลียให้เสร็จเป็นอันดับแรก ก็แหม ทั้งสำคัญทั้งเร่งด่วน หากปล่อยหรือลืมไป บอกเลยว่าเจ๊งแน่ งานสำคัญที่ไม่เร่งด่วน  อันนี้สำคัญนะ แต่ว่าเก็บไว้ทำทีหลังได้ แต่บอกก่อนว่า ห้ามลืมเด็ดขาด งานไม่สำคัญ แต่เร่งด่วน  อันนี้คืองานที่เราสามารถไหว้วานคนที่เราไว้ใจ จ่ายงานให้เขาจัดการแทนเราได้ แต่จะไหว้วานใคร คนนั้นต้องเป็นคนที่คุณไว้ใจได้จริง ๆ นะ ว่าจะไม่ทำงานคุณหลุด เพราะต่อให้จะเป็นงานไม่สำคัญ แต่ถ้าขึ้นชื่อว่างานแล้วละก็ หลุดมาก็เสียชื่อเราได้เห

คือ การสร้างรูปแบบวัฒนธรรมขององค์กรต่อการให้บริการลูกค้าที่ยั่งยืน เพื่อให้องค์กรของเรามีรูปแบบพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ในการให้บริการลูกค้าที่มีแนวทางใกล้เคียงกัน ทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกประทับใจ ทุกครั้งที่มาใช้บริการ เปรียบเสมือนเป็นการสร้างเสาเข็มขององค์กร ในด้านการบริการที่ยั่งยืน โดยการออกแบบวัฒนธรรมบริการ ค่านิยม และพฤติกรรมบริการขององค์กร หลังจากนั้น   จึงทำการฝึกอบรม พัฒนา ส่งเสริม จูงใจให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติหน้าที่ตามวัฒนธรรมบริการที่ได้กำหนดไว้ ตัวอย่างองค์กรชั้นนำในสากล และในประเทศที่มีการสร้างวัฒนธรรมบริการ ได้แก่ STAR BUCKS,   Ritz Carlton, Mandarin Oriental Hotel-Bangkok และ AIS เป็นต้น ในการสร้างวัฒนธรรมบริการ เราสามารถดำเนินการตาม DISCS Model ได้ดังภาพ ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ 02-921-7921 www.impressionconsult.com

มีคำคมในยุคสมัยหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า  “งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข”  ทำให้ชวนคิดกันมาโดยตลอดว่า ความสุขจากการทำงานนั้น หมายถึง “ เงิน”  อย่างเดียวเลยหรือ?  องค์ประกอบของความสุขในชีวิตเราในด้านอื่นๆ ควรจะถูกคำนึงถึงด้วยหรือไม่ และควรถูกคำนึงถึงมากน้อยเพียงไร? ถ้าจะพูดกันแบบตรงๆ ไม่ใช่พวกโลกสวย คงต้องยอมรับว่าค่าตอบแทน หรือเงินค่าจ้าง นั้นสำคัญมากในการทำงาน ก็แน่ล่ะสิ เราทำงานเพื่อให้ได้เงินไม่ใช่ไปทำการกุศล ถึงจะได้เท่าไหร่ก็รับมาแบบไม่คิดอะไร แต่ความสุขที่ได้จากการทำงานในทุกวันก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่น้อย เพราะเราคงไม่สามารถจะมีความสุขได้แค่วันเงินเดือนออกเพียงวันเดียว! แล้วเราจะพิจารณาจากอะไรเป็นสำคัญถ้าเจองานที่ใช่ แต่เงินไม่ไหวจะเคลียร์ หรือ งานที่ค่าตอบแทนสูงลิบลิ่ว แต่ต้องทนนั่งหน้านิ่วเพราะความเครียด ลองมาดูกันดีกว่า ถ้าเราเจอกับภาวะแบบนี้ จะตัดสินใจจากอะไรดี 1. ความจำเป็นของ “เงิน” ต่อการดำรงชีพของคุณ ความชอบเป็นสิ่งที่หล่อเลี้ยงจิตใจเรา เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข และมีแรงบันดาลใจในการมีชีวิตอยู่ แต่เงินก็ไม่ใช่ไม่จำเป็น ถ้าคุณไม่ได้เดือดร้อนอะไรในชีวิต บ้านไม่ต้