บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2015

ตัวอย่างแบบฟอร์มการประเมินผลงาน

รูปภาพ
เมื่อตอนที่ผมยังเด็กว่ายน้ำไม่เป็น ผมก็สังเกตดูว่าคนอื่นที่ว่ายน้ำไปมานั้นว่ายกันยังไงคนไหนที่ดูดี ท่าสวย ผมก็จะพยายามเลียนแบบทำตาม เมื่อผมโตขึ้นและเข้าเรียนคอร์สว่ายน้ำผมจึงรู้ว่าที่ผมเห็นว่า ท่าสวยดูดีนั้นมันผิด! เมื่อหลายวันก่อน ผมท่องเว็บไปก็ได้เห็นว่ามีผู้ร้องขอให้ใครก็ตามที่มีแบบฟอร์มประเมินผลงานช่วย ส่งมาให้หน่อย บางคนอยากได้แบบ KPI บางคนอยากได้แบบใช้ Competency บางคนก็ไม่ได้บอกว่าอยาก ได้แบบไหน ขอให้ส่งมาเถอะ จะดูเป็นตัวอย่างและจะไปปรับใช้ในองค์กรของตน ประเด็นที่ผมอยากจะแชร์คือ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบบฟอร์มที่ผู้หวังดีส่งมาให้นั้น เป็นฟอร์ม ที่ผิดหรือถูก เหมือนอย่างที่ผมคิดว่าคนนั้นคนนี้ว่ายน้ำท่านั้นสวยเราก็เลียนแบบเอาบ้าง-แต่กลาย เป็นว่าเลียนแบบที่ผิดๆ มา แบบฟอร์มที่เราได้มานั้นออกแบบโดยใคร? ผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญหรือเปล่า หรือผู้ออกแบบใช้สามัญสำนึก ความชอบ คุย ๆ กันภายในแล้วก็สรุปออกมา หรืออาจจะโทรหาเพื่อนขอแบบฟอร์มที่บริษัทเพื่อนใช้อยู่ ได้มาแล้วก็ลบชื่อบริษัทเพื่อนเสีย แล้วใส่ชื่อบริษัทของตัวเองลงไป แค่นี้ก็สำเร็จเรียบร้อย!?!? และถึงแม้แบบฟอร์มที่เราได้มาน

เครื่องมือการประเมิน Competency ของผู้สมัคร?

รูปภาพ
ถ้ามองในแง่ของสื่อของคนในสังคมออนไลน์แล้ว Facebook ถือเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีทางเลือก หนึ่งในการติดต่อสื่อสาร การสร้างเครือข่าย การเรียนรู้ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ การระบายอารมณ์ การเปิดเผยตัวตนให้คนอื่นรู้จัก การเชื่อมโยงเครือข่ายมิตรภาพตั้งแต่ระดับเพื่อนร่วมสังคมออนไลน์ ที่สนใจเรื่องบางเรื่องเหมือนกัน จบจากสถาบันเดียวกัน เคยทำงานองค์กรเดียวกัน ฯลฯ จนพัฒนาไปสู่มิตรภาพของเพื่อนสนิทหรือกลายเป็นเพื่อนคู่ชีวิตกันไปแล้วก็มี ในฐานะที่ผมเคยทำงานด้านการบริหารทรัพยากรมนุษย์มาก่อน จึงคิดว่าคนทำ งานด้าน HR  น่าจะใช้ Facebook ให้เป็นประโยชน์ใน การทำงาน ได้มากกว่าแค่การประกาศรับสมัครงานหรือโพสต์ ลิงก์ไปยังเว็บ สมัครงาน ของบริษัทฯ และเท่าที่ได้อ่านสิ่งที่คนใน FB เขียนพบว่ามีหลายประเด็นที่น่าจะนำมาใช้ประโยชน์ ในการคัดเลือกบุคลากรได้ โดยเฉพาะการประเมินสิ่งที่ไม่ใช่ความรู้และทักษะ ในงานแต่เป็นสิ่งที่แสดงออกถึง นิสัยใจคอ บุคลิกลักษณะ ความเชื่อ วิธีคิด ทัศนคติ สังคม ผมคิดว่าเราน่าจะนำมาประกอบการพิจารณาเพื่อคัดเลือกคนเข้าทำงานได้บ้าง เช่น ดูจากรูปประจำตัว รูปประจำตัวของคนน่าจะบอกอะไ

องค์กรที่คนเก่งรุ่นใหม่อยากอยู่นาน

รูปภาพ
ในช่วงหนึ่งปัญหาใหญ่ขององค์กรต่างๆ คือ  “หาคนเก่งยาก”  จึงทำให้เกิดธุรกิจนายหน้าสรรหาคลากร หรือที่เรียกกันว่า Head Hunter หรือ Recruitment Agency เยอะแยะมากมาย ซึ่งก็พอช่วยทำให้ปัญหาการหา คนเก่งลดลงไปได้ระดับหนึ่ง นอกจากนี้ความทันสมัยของเทคโนโลยีอินเตอร์ที่ทำให้คนทำงานเข้าถึงองค์กร และองค์กรเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการทำได้ง่ายขึ้น ปัญหาการหาคนเก่งให้เจอจึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่ในปัจจุบันและอนาคตปัญหาที่ใหญ่กว่าและยากกว่าการหาคนเก่งๆมาร่วมงานคือ  “การรักษาคน เก่งให้อยู่กับองค์กรนานๆ ”  เพราะคนรุ่นใหม่เกิดมาพร้อมกับความสะดวกสบายทำให้คนรุ่นใหม่ลักษณะ แตกต่างจากคนรุ่นก่อนๆ หลายอย่างเช่น • ชอบเรียนรู้ด้วยตัวเองมากกว่าการให้คนอื่นสอน เพราะเด็กรุ่นใหม่ไม่เคยถามพ่อแม่ว่าเล่นเกมส์อย่างไร แต่เขาจะใช้วิธีเรียนรู้ด้วยตัวเองมาตั้งแต่เด็ก • อยากประสบความสำเร็จเร็วกว่ามากกว่าคนรุ่นก่อนและคนรุ่นเดียวกัน เพราะมีคนรุ่นใหม่ๆที่ประสบ ความสำเร็จทั้งๆที่อายุยังน้อยเป็นไอดอลหรือเป็นโมเดลออกมากระตุ้นอยู่ตลอดเวลา • อยากทำงานสบายแต่ได้เงินดีมีชื่อเสียง จะเห็นได้จากการประกวดร้องเพลง การแสด

5 ขั้นตอนบริหารเวลาแบบมหาเศรษฐี

รูปภาพ
1. ตรงเวลาเสมอ – เพื่อแสดงให้เห็นว่าเราใส่ใจเวลาของทั้งตัวเองและผู้อื่น ทำให้ทราบกรอบเวลาของกิจกรรมต่างๆอย่างชัดเจนและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ลงมือทำทันที – การทำทุกสิ่งเลยทันทีที่นึกขึ้นได้ช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงเร็วกว่าเดิม นอกจากนี้ยังไม่เปลืองพลังงานและเวลาโดยใช่เหตุอีกด้วย 3. อย่ากลุ้มกับสิ่งที่คุมไม่ได้ – การควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของตนเองได้ ช่วยให้ไม่จมปลักอยู่กับเรื่องกลัดกลุ้มใจและพร้อมเปิดโอกาสเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ที่ดีกว่า ซึ่งส่งผลดีต่อการออมเงินด้วย 4. อย่าใช้คำว่า “ยุ่ง” เป็นข้ออ้าง – คำสั้นๆคำนี้ หมายถึงว่า เราปล่อยให้ผู้อื่นมาคุมเวลาและมีอิทธิพลเหนือเรา ดังนั้นจึงควรมอบหมายงานให้ผู้อื่นทำตามสมควร เพื่อการมีสมาธิจดจ่อกับงานที่ต้องเน้นคุณภาพได้อย่างเต็มที่ และใช้เวลาอันน้อยนิดให้เกิดประโยชน์สูงสุด 5. ไม่พักผ่อนแบบครึ่งๆ กลางๆ – การพักผ่อนจำเป็นต่อการถนอมสุขภาพและฟื้นพลังใจ ฉนั้นจึงควรเร่งสะสางงานให้เสร็จแลกกับการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้เพียงสั้นๆก็ตาม ที่มา : หนังสือ ความลับมหาเศรษฐี คนแบบนี้แหละ ดึงดูดเงิน สำนักพิมพ์ Amarin How To
รูปภาพ
การเพิ่มความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานอาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ทุกองค์สามารถทำได้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหลายๆครั้งเราพบว่ากิจกรรมบางอย่างเราสามารถทำได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย หรือมีต้นทุนต่ำ ดังนั้นจึงไม่มีข้ออ้างใดๆ ที่จะไม่ทำ แนวทางต่อไปนี้เป็นไอเดียสำหรับไปต่อยอดทำกิจกรรมหรือโครงการต่างๆ เพื่อเสริมสร้างความพึงพอใจในการทำงานของพนักงานให้เพิ่มสูงขึ้น  มีการสื่อสารเพื่อความโปร่งใสในองค์กร   สร้างเครือข่ายสังคมภายในองค์กร   การโค้ช   มีการสำรวจความพึงพอใจทั้งแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ   กำจัดความกลัวในใจพนักงาน   แสดงความเคารพและให้เกียรติ   ให้คำยกย่องชมเชย   จัดให้มีชีวิตการทำงานที่สมดุล   จัดงานให้สอดคล้องกับเป้าหมาย   ให้อิสระในการทำงาน   เสนอให้มีตารางเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น   ส่งเสริมการออกกำลังกาย   จัดสภาพแวดล้อมการทำงานให้น่าอยู่   จัดให้มีสวัสดิการที่ดี   มอบหมายงานที่มีความท้าทาย   ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน   อย่ากล่าวโทษพนักงานต่อหน้าคนหมู่มาก   เข้าใจเหตุผลเมื่อพนักงานมาสาย   มีความสุภาพ   ช่วยวางแผนเติบโตในอาชีพ   ยกเลิกข้อห้ามที่ไม่มีความจำเป็น   ให้การสนับสนุนเมื่อมีควา