เปลี่ยนเป็นคนใหม่ในการทำงาน


เคยบ้างไหมที่อยากจะมีวันที่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกกระตือรือร้นอยากไปทำงาน
เคยบ้างไหมที่เห็นคนอื่นเขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่เรายังย่ำอยู่ที่เดิม
หากคุณเคยมีความรู้สึกคล้ายๆ ตัวอย่างเหล่านี้  ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีด้วยที่อย่างน้อยคุณมีการประเมินตัวเองและรู้ว่าควรจะพัฒนาให้ดีขึ้น หากคุณต้องการเปลี่ยนตัวเองเป็นคนใหม่ อย่ารอเวลาอีกต่อไป
8 วิธีต่อไปนี้อาจจะช่วยคุณได้

จุดมุ่งหมายต้องชัดเจน
การทำงานโดยไร้จุดหมายเป็นสาเหตุสำคัญที่มักทำให้ผู้คนขาดแรงบันดาลใจ ดังนั้นทุกเรื่องต้องเริ่มจากการมีเป้าหมายก่อนเป็นอันดับแรก คุณต้องมีความชัดเจนว่าต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่ออะไรหรือเพื่อใคร และต้องการให้ตัวเองคนใหม่เป็นแบบไหน คุณอาจจะต้องการเลื่อนตำแหน่ง เงินเดือนขึ้น หรือต้องการสร้างบ้านให้พ่อกับแม่ เป้าหมายเหล่านี้จะเป็นสิ่งคอยผลักดันให้ทุกอย่างเกิดขึ้น อย่างไรก็ตามเป้าหมายควรเป็นสิ่งที่ตั้งอยู่บนความเป็นไปได้ ประเมินได้และมีกรอบเวลาชัดเจน

ทัศนคติคุณพร้อมหรือยัง
การแบกความคิดด้านลบไว้เต็มสมองไม่ช่วยอะไรนอกจากจะดึงคุณให้ห่างออกจากเป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ สิ่งสำคัญมากหลังจากตั้งเป้าหมายแล้วคือความเชื่อว่าสิ่งนั้นไปถึงได้จริง หากแม้แต่ตัวคุณเองยังไม่มีความเชื่อนี้ คุณจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ได้อย่างไร

ศึกษาข้อมูลและวางแผน
เพื่อเป้าหมายนี้ คุณจะต้องทำอะไรบ้าง ลองคิดวิเคราะห์ออกมาตามแบบฉบับของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร งานที่บริษัทปัจจุบันตอบในสิ่งที่คุณอยากได้หรือไม่ ถ้าใช่ คุณจะทำอย่างไรเพื่อให้จุดหมายของคุณเป็นจริง คุณต้องพัฒนาหรือปรับปรุงตนเองในด้านไหนบ้าง ต้องใช้เวลาเท่าไร วางแผนให้จริงจังเป็นรูปธรรมอย่าตั้งกรอบเวลาลอยๆ

ลองทำอะไรใหม่ๆ ให้ตัวเองบ้าง
การก้าวออกจาก Comfort Zone  เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาตนเอง เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณได้เรียนรู้ว่าโลกกว้างไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด คุณยังสามารถทำอะไรได้อีกตั้งหลายอย่าง อย่าจำกัดตัวเองอยู่แค่ในวงกลมเดิม ๆ ที่ตัวเองเคยอยู่ ไม่จำเป็นต้องทำอะไรที่ยิ่งใหญ่หรือเกี่ยวกับงานเสมอไป สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เช่น เลือกทางกลับบ้านใหม่ ลองทานอาหารเมนูใหม่ ลองอ่านหนังสือหรือดูหนังประเภทที่ตัวเองไม่เคยดูมาก่อน ทำให้โลกของตัวเองกว้างขึ้น เพื่อความกลัวและความกังวลของคุณจะได้เล็กลง สิ่งนี้จะฝึกจิตคุณให้เปิดกว้างและพร้อมรับความสำเร็จได้ง่ายขึ้น

ลองสังสรรค์กับผู้คนใหม่ๆ บ้าง
การเลือกคบคนมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คุณควรพาตัวเองไปรู้จักพูดคุยกับกลุ่มคนที่เป็นแรงบันดาลใจให้คุณได้บ้าง เพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้างานคนไหนที่เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับคุณ หรืออาจจะเป็นคนอื่นนอกบริษัทก็ได้ เข้าไปเรียนรู้วิธีคิด วิธีการทำงานของเขา และนำมาปรับใช้เพื่อพัฒนาตัวเอง

อย่าผัดวันประกันพรุ่ง
จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับคุณเลย หากคุณมีแผนทั้งหมดในใจแต่ไม่เคยแม้แต่จะเริ่มลงมือทำ “ไม่มีเวลา” “วันนี้ไม่ว่าง” ไม่ใช่เหตุผลที่ดีพอ คนเราทุกคนมีเวลา 24 ชั่วโมงต่อวันเท่ากัน คุณมีแผนในมือแล้ว ควรลงมือทำเดี๋ยวนี้ ยิ่งคุณผัดผ่อนออกไป โอกาสในการเปลี่ยนแปลงตัวเองก็ริบหรี่ลงทุกวัน เพราะคุณจะเริ่มท้อถอยและยอมรับกับสภาพที่ตัวเองเป็นอยู่ในปัจจุบันว่า “นี่เป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก”

ทำให้เป็นนิสัย
Dr. Maxwell Maltz เคยกล่าวถึงทฤษฎี 21 วันในหนังสือ Psycho-Cybernetics ของเขาว่าคนเรามักจะใช้เวลาประมาณ 21 วันในการสร้างความคุ้นชินกับสิ่งใหม่ๆ ในเวลาต่อมานักคิด นักพูดทั้งหลายต่างนิยมนำเอาหลักการนี้มาอ้างอิงว่าการกระทำใดก็ตามที่คุณทำอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 21 วัน สิ่งนั้นจะกลายมาเป็นนิสัยความเคยชินของเรา คุณอาจจะไม่ต้องยึดติดกับตัวเลขนั้น แต่คุณต้องระลึกเสมอว่าการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองหมายถึงคุณจะต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างถาวร ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนนั้นเกิดจากการกระทำอย่างจริงจังและสม่ำเสมอเท่านั้น นอกจากนี้คุณควรท่องไว้ว่าไม่มีใครทำสำเร็จในครั้งแรก ไม่มีใครที่ไม่เคยล้ม ความแตกต่างระหว่างคนที่ประสบความสำเร็จกับผู้แพ้นั้นมีเพียงแค่จิตใจที่ไม่ย่อท้อต่อความล้มเหลว ทุกครั้งที่ล้ม หากคุณเหนื่อย คุณจงหยุดพัก แต่พร้อมเมื่อใดต้องเดินต่อเสมอ หากเมื่อใดที่ล้มแล้วไม่ยอมลุกขึ้นอีกครั้ง เมื่อนั้นทุกอย่างก็จบ ไม่มีใครเปลี่ยนแปลงอะไรได้ในเวลาชั่วข้ามคืน คุณต้องรักษากำลังใจและเดินต่อเท่านั้น

ประเมินผล
บางครั้ง การวางแผนของเราตั้งแต่แรกอาจมีข้อที่ไม่สมเหตุสมผลอยู่บ้าง เนื่องจากเรายังไม่ได้ลงมือทำอย่างจริงจัง ยังไม่รู้ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ดังนั้น คุณควรมีกำหนดระยะเวลาให้ตัวเองได้กลับมาประเมินผลที่เกิดขึ้นเป็นระยะ เพื่อทบทวนว่าแผนที่วางเอาไว้มีอะไรที่ควรปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้หรือไม่ มีการวัดความก้าวหน้าเพื่อจะได้รู้ว่าตัวเองกำลังมาถูกทางแล้ว อย่ามุ่งหน้าอย่างเดียวทั้งๆที่เหตุการณ์ต่างๆ เริ่มส่อเค้าว่าสิ่งที่คุณทำอยู่อาจจะเป็นการเสียเวลาเปล่า

ใครๆ ก็อยากเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้นทั้งนั้น แต่มีไม่กี่คนที่ทำได้สำเร็จ อาจเพราะหลายคนมีความเชื่อว่าการจะทำความฝันให้เป็นจริงนั้นเป็นเรื่องยากเกินความสามารถของตัวเอง เราไม่มีอำนาจในการควบคุมใดๆ แต่ในความเป็นจริงแล้ว มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสามารถในการพัฒนาตัวเองอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ทุกอย่างย่อมกลายเป็นความจริงได้เพียงแค่คุณมีความตั้งใจ มีเป้าหมาย มีแผนการที่ชัดเจน และที่สำคัญ คุณต้องมีการลงมือทำเพียงเท่านั้นเอง

ที่มา : th.jobsdb.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 มิติคุณภาพบริการ

10 มิติคุณภาพบริการ

เทคนิคมีบุคลิกภาพที่ดีในที่ทำงาน