ผู้นำสามารถสร้างความเชื่อใจอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร


การสร้างความเชื่อใจในทุกๆ เรื่องอย่างต่อเนื่อง ก็เหมือนการปลูกป่า นานวันยิ่งเติบโตยิ่งมีการพัฒนา แต่ต้องรู้ว่าการทำลายป่านั้นใช้เวลาเพียงไม่นาน หากท่านเป็นที่เชื่อใจแล้วจะช่วยให้ท่านได้รับประโยชน์จากข้อสงสัยในบางช่วงเวลาที่ยากลำบาก ความเชื่อใจสร้างได้จาก พฤติกรรมในอดีต ความสามารถทางเทคนิคต่างๆ และการแบ่งปันเป้าหมายร่วมกัน และนี่คือกลไก 10 เรื่องที่สำคัญ ที่ผู้นำสามารถสร้างความเชื่อใจ


แสดงความหลงใหลในการทำงานของท่าน :

หากท่านมีความหลงใหลในการทำงานอย่างแท้จริง บุคลากรก็จะมองเห็น ถ้าท่านกระตือรือร้นที่จะมาทำงานในแต่ละวัน และอุทิศตนเพื่อบรรลุพันธกิจและวิสัยทัศน์ ก็จะส่งผลให้เพื่อนร่วมงานของท่านมีแนวโน้มที่จะมีความผูกพันมากขึ้น แต่หากเป็นไปในทางตรงกันข้าม ก็จะได้ผลในทางตรงกันข้าม คือแรงจูงใจในการทำงานและความเชื่อใจจะลดลง

ทำให้ค่านิยมขององค์กรเป็นจริง :

ค่านิยมเป็นเรื่องสำคัญต่อการสร้างความเชื่อใจ ค่านิยมองค์กรมักพัฒนาผ่านกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันแล้วนำมาเป็นแกนหลักในการสร้างวัฒนธรรมองค์กร ค่านิยมเหล่านี้ต้องมีการหารือ เป็นพื้นฐานในการให้อำนาจในการตัดสินใจกับพนักงานในการดำเนินการรับความเสี่ยง และเป็นขอบเขตควบคุมพฤติกรรมที่ยอมรับได้ สิ่งสำคัญที่สุดของค่านิยมคือ การที่ผู้นำระดับสูงไม่เพียง แค่กำหนดหลักการ แต่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาปฏิบัติตามนั้นและไม่รีรอที่จะดำเนินการกับการกระทำที่ละเมิดค่านิยมขององค์กร

บอกตามตรง :

ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อใจ แม้เมื่อมีข่าวไม่ดีก็ต้องบอกความจริงโดยไม่เบี่ยงเบนในการสื่อสาร พนักงานที่มีความมุ่งมั่นต่อองค์กรจะรู้สึกที่ท่านเชื่อใจพวกเขาและต้องการที่จะมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาในสถานการณ์ปัจจุบัน

สื่อสารสม่ำเสมอ :

ท่านไม่สามารถสร้างความเชื่อใจผ่านผู้สื่อสารท่านอื่น บทบาทหลักสำหรับผู้บริหารระดับสูงคือการสื่อสาร การสื่อสารเปิดเผย ซื่อสัตย์ และเป็นแบบสองทาง การสื่อสารเป็นได้ทั้งแบบทางการและไม่เป็นทางการ ส่วนสำคัญของการสื่อสารที่ดีคือการฟังอย่างกระตือรือร้น ท่านจำเป็นต้องรู้ความเป็นไปขององค์กร ในขณะที่ทุกวันนี้การสื่อสารมีหลากหลายรูปแบบ อาทิ อีเมล บล็อก ทวิตเตอร์ แต่ก็ยังไม่มีอะไรมาแทนการพบหน้าและจับมือ ภาษากายเป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการสร้างความเชื่อใจ (หรืออาจกลับกัน)

กล่าวขอบคุณ :

คนชอบและควรได้รับการชื่นชม ท่านจะประสบความสำเร็จในฐานะผู้นำได้หากพนักงานขององค์กรท่านประสบความสำเร็จ ทำให้พวกเขารู้และแน่ใจว่าท่านรู้ การกล่าวขอบคุณมีประสิทธิภาพอย่างไม่น่าเชื่อ พนักงานของท่านอาจจำทุกอย่างที่ท่านพูดไม่ได้ แต่จะไม่มีวันลืมการที่ท่านทำให้พวกเขารู้สึกดี

การจัดทิศทาง ไม่ใช่กิจกรรม :

ให้อำนาจในการตัดสินใจกับพนักงานเพื่อที่จะบรรลุการทำงานให้กับองค์กร ให้พวกเขามีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขาหรือมากกว่านั้นถ้าเป็นไปได้ เมื่อปรับเปลี่ยนทิศทางองค์กรแล้วก็ต้องการสื่อสารเหตุผลในการดำเนินงานขององค์กรด้วยความโปร่งใส กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน และช่วยให้พนักงานเห็นผลงานที่พวกเขามีส่วนช่วยให้องค์กรบรรลุผลสำเร็จ

ยอมรับข้อผิดพลาดของท่าน :

ทุกคนทำผิดพลาดได้รวมทั้งท่านด้วย เมื่อท่านทำผิดพลาด ต้องยอมรับ และบอกว่าจะทำอะไรเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดนั้น ทุกคนเข้าใจว่า

ทำตามที่สัญญา :

เมื่อท่านสัญญาหรือแสดงความมุ่งมั่น ต้องรักษาไว้ อย่าสัญญาหากท่านไม่สามารถทำได้ หรือไม่ได้ตั้งใจที่ทำ การผิดสัญญาจะเป็นที่เลื่องลือในองค์กรอย่างรวดเร็วกว่าการรักษาสัญาได้

ให้ความสำคัญกับผลสำรวจพนักงาน :

เมื่อท่านสำรวจพนักงาน ต้องมั่นใจว่ามีการแบ่งปันผลสำรวจและดำเนินการกับประเด็นที่พบ การไม่สนใจผลสำรวจเลวร้ายกว่าการไม่สำรวจ สื่อสารสิ่งที่เรียนรู้จากการสำรวจและสิ่งที่กำลังจะทำและรายงานความคืบหน้าเป็นระยะ หากท่านต้องการวัดความน่าเชื่อใจของท่าน ให้ใส่คำถามนี้ไว้ในการสำรวจ “ผู้นำระดับสูงมีจริยธรรมหรือไม่”

แสดงให้เห็นว่าท่านใส่ใจ :

มองคนในองค์กรเป็นรายบุคคล แสดงให้เห็นว่าท่านใส่ใจในความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน แสดงความสนใจในชีวิตส่วนตัวของพวกเขาแบบไม่ใช่การอยากรู้อยากเห็น แบ่งปันความทุกข์และความสุขของพวกเขา แจ้งเป็นการส่วนตัวในในโอกาสที่เหมาะสมหากพบว่าไปผิดทาง ให้พวกเขารู้จักท่านในฐานะของความเป็นมนุษย์ธรรมดา

ประโยชน์ของการสร้างความเชื่อใจ

เมื่อมีความเชื่อใจในองค์กรและผู้นำแล้ว ผลการดำเนินงานขององค์กรจะดีขึ้น ทุกคนจะรู้สึกภาคภูมิใจในการทำงาน จากผลงานวิจัยของ Watson Wyatt พบว่า องค์กรที่เป็นที่เชื่อใจจะมีอัตราการลาออกต่ำ และมีผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นที่สูง องค์กรที่มีความเชื่อใจสูง จะมีผลงานที่ดีกว่าองค์กรที่เป็นมีความเชื่อใจต่ำถึง 300% ผู้นำที่ได้รับความเชื่อใจจะได้รับรางวัลจากพนักงานด้วยการทำงานอย่างเต็มที่เหนือกว่าที่กำหนดไว้ เมื่อบรรยากาศความเชื่อใจสูงขึ้น การทำงานร่วมกันจะดีขึ้น ทำให้องค์กรเติบโตไปข้างหน้าได้ดีขึ้น ความเชื่อใจอาจไม่สามารถรับประกันความสำเร็จขององค์กรในระยะยาว เพราะมีหลายปัจจัยที่นำไปสู่ความยั่งยืน อย่างไรก็ตาม การขาดความเชื่อใจจะนำไปสู่การบั่นทอน ผลิตภาพลดลง อัตราการลาออกของผู้นำสูง และองค์กรล้มเหลว ในภาวะการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่องค์กรต้องสามารถแข่งขันได้ เทคโนโลยีเป็นสิ่งสำคัญ กระบวนการต้องมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ต้องมีเงินสดในธนาคาร คุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อลูกค้า และจำเป็นต้องมีนวัตกรรม ซึ่งแหล่งที่มาของความคิดที่นำไปสู่??ความความสำเร็จเหล่านี้ จะไม่เกิดขึ้นกับผู้นำระดับสูงที่แยกตัวออกห่าง แต่จะได้กับผู้นำระดับสูงที่เป็นที่เชื่อใจของพนักงาน

cr. www.ftpi.or.th

ความรู้อื่นๆ เพิ่มเติม ได้ที่ www.impressionconsult.com

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

5 มิติคุณภาพบริการ

10 มิติคุณภาพบริการ

เทคนิคมีบุคลิกภาพที่ดีในที่ทำงาน