บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก พฤศจิกายน, 2016

การทำงานอย่างชาญฉลาด (Working SMART)

รูปภาพ
การประสบความสำเร็จในงาน ไม่ได้อยู่ที่คุณทำงานหนักเพียงใด แต่อยู่ที่คุณทำงานได้อย่างชาญฉลาด หรือ Smart แค่ไหน อย่าแค่พยายามทำตัวให้ busy ตลอดเวลา เหมือนกับมดที่มัน วิ่งวุ่นๆ แต่ควรจะรู้ว่า คุณกำลัง busy อยู่กับเรื่องอะไร การจัดสรรเวลาการทำงานคนเราอาจจะจัดได้ 5 สไตล์ ลองดูสิว่าเราอยู่ประเภทไหน 1. ทำสิ่งที่เร่งด่วน หรือเสียงดัง ก่อน (Urgent - Loud things first) ในชีวิตการทำงานของเรา เราก็ต้องเจอเสียง complaint หรือ request ต่างๆที่เข้ามาซึ่ง แต่ละเรื่องก็ บอกว่าเป็นเรื่องด่วนๆ ทั้งนั้น หรือเป็นเรื่อง ที่มาจากคนที่มีเสียงดัง บางอย่างก็เป็น เรื่องเร่งด่วนจริงที่เราควรให้เวลากับมัน แต่บ่อยครั้งมันก็ไม่ด่วนจริง ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ ที่เข้าใจอย่างแท้จริงว่า เรื่องใดที่เราสมควร ให้เวลากับมัน เรื่องใดที่คนอื่น สามารถทำได้ หรือ เรื่องใดที่ไม่ว่าให้เวลากับ มันเท่าไรก็ไม่เกิดประโยชน์  แยกแยะให้ได้ว่าเรื่องใด ด่วนจริง หรือ ไม่ด่วนจริง 2. ทำสิ่งยากๆ ก่อน (Unpleasant - Hard things first) บางครั้งคนเราก็มีเหตุจูงใจ ที่คิดว่าการทำงานยากๆก่อน เป็นสิ่งที่ถูกต้องหรือท้าทาย ดังนั้นธรรมช

พนักงานแบบใดที่หัวหน้าไม่ควรมองข้าม

รูปภาพ
ในแต่ละองค์กรต่างก็มีพนักงานหลากหลายประเภททำงานร่วมกัน มีทั้งคนที่โดดเด่นเป็นพิเศษและทั้งคนที่ดูธรรมดาแต่มีความสามารถ ในฐานะหัวหน้าเราควรจะต้องแยกแยะให้ได้ว่าลูกน้องคนไหนมีฝีมือจริง หรือมีความสามารถซ่อนอยู่เพียงแต่รอคนสนับสนุนและขัดเกลา สำหรับคนที่โดดเด่นอยู่แล้วคงไม่ยากที่จะสังเกตเห็น แต่ยังมีพนักงานแบบใดอีกหรือไม่ ที่หัวหน้าทั้งหลายไม่ควรมองข้าม พนักงานอายุน้อยหรืออายุงานน้อย พวกเขาเป็นกลุ่มที่อาจเรียกได้ว่ามีไฟในการทำงานมากที่สุดเป็นลำดับต้นขององค์กร พนักงานกลุ่มนี้กำลังพยายามสร้างผลงานเพื่อการยอมรับ ดังนั้นหัวหน้าควรเปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงฝีมือบ้าง จริงอยู่ที่งานบางอย่างอาจต้องอาศัยประสบการณ์แต่คุณสามารถเริ่มจากการให้พวกเขาได้ทำงานร่วมกับพนักงานที่มีอายุงานมากกว่า และคอยติดตามดูว่าพวกเขาเรียนรู้ได้เร็วแค่ไหน หรือมีความตั้งใจเพียงใด อย่ามองคุณค่าคนอยู่ที่เพียงอายุหรือประสบการณ์การทำงานเพียงอย่างเดียว หากคุณสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานกลุ่มนี้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกของการทำงาน พวกเขาจะกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่า มีฝีมือ จะรักและภูมิใจที่ได้อยู่กับองค์กรที่เห็นคุณค่าในตัวพวกเข

9 สิ่งเล็กๆ ที่คนจะใช้ตัดสินบุคลิกภาพของคุณ

รูปภาพ
ในเวลาที่คนสองคนได้พบรู้จักกันไม่ว่าจะเป็นวันหรือการสัมภาษณ์งาน พวกเขาก็ต่างมองหาสิ่งที่สามารถวัดคุณภาพของคุณอยู่ไม่ว่าจะเป็น ความซื่อสัตย์ ความฉลาดเฉลียว และความไม่เห็นแก่ตัว Business Insider ได้ทำการสำรวจกับ Quora ในหัวข้อ "อะไรคือสิ่งเล็กๆ ที่จะสามารถบอกเกี่ยวกับหลักจิตวิทยาและบุคลิกภาพของบุคคลได้?" และจากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ล่าสุด มีบางส่วนที่สามารถบ่งบอกถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่คนส่วนมากใช้ตัดสินคุณ 1. การจับมือ (Handshake) การจับมือด้วยความมั่นใจ แข็งแกร่งสะท้อนให้เห็นถึงคนที่มีความมุ่งมั่น ในทางตรงข้ามหากในขณะที่จับมือถ้าประหม่า มันก็แสดงว่าว่าคุณขาดความมั่นใจ ไม่มุ่งมั่น การจับมือเป็นสิ่งง่ายๆ ที่จะใช้มองลักษณะของคน ซึ่งตรงกับงานวิจัยที่ว่าการจับมือของคุณสามารถที่จะเปิดเผยบางแง่มุมของบุคลิกภาพของคุณได้ 2. การตรงต่อเวลา (Punctuality) เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากคุณไปนัดสายในวันสำคัญ คนที่เป็นฝ่ายรอคุณก็คงจะเกิดความรู้สึกไม่ดี มองคุณในแง่ลบ 3. ลายมือ (Handwriting) ไม่ว่าคุณจะเขียนรายงานที่ต้องทำ หรือจดโน้ต ลายมือของคุณสามารถบ่งบอกถึงลักษณะของคุณได้

8 ข้อคิดเพิ่มประสิทธิภาพหัวหน้างาน

รูปภาพ
ยิ่งบริษัทขยายตัวมาก ขึ้นเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าสิ่งต่างๆ ก็เริ่มไหลเข้ามามากขึ้น ตั้งแต่อีเมล เอกสาร การประชุม ไปจนถึงพนักงาน เมื่อเรามาถึงจุดหนึ่งที่ไม่สามารถดูแลได้ทุกสิ่งทุกอย่าง เราควรแน่ใจก่อนว่าจะให้เวลากับสิ่งใดบ้าง ประสบการณ์ที่เราได้รับการบอกเล่าทั้ง 8 ประการต่อไปนี้เป็นของเจ้าของกิจการรุ่นใหม่ๆ ที่เจอปัญหาคล้ายๆ กัน เราเชื่อว่าบางข้อน่าจะเป็นประโยชน์กับคุณ 1. อย่าบั่นทอนเวลางาน ด้วยตารางงาน Jason Fried ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท 37 Signals เล่าให้เราฟังว่า “ถ้าเป็นไปได้เราจะไม่ค่อยเรียกประชุมถ้าไม่จำเป็น เพราะส่วนตัวผมเองไม่ชอบการประชุม มันทั้งเปลืองและเสียเวลาเปล่า และกลายเป็นว่าเวลาประชุมเหล่านั้นคอยเฉือนเวลาว่างของเราออกให้เป็นห้วงๆ จนเหลือตรงนั้น 20 นาที ตรงนี้ 45 นาทีตลอดเวลาจนแทบทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันไม่ค่อยได้เลย เวลาสร้างสรรค์งานบางทีมันจำกัดเวลาลงไม่ได้ อีกอย่าง ก็คือ ถ้ารู้ว่ามีเวลาแค่ภายใน 20 นาที คุณก็คงคิดอะไรไม่ออกอยู่ดี” “ผมไม่ตั้งนาฬิกาปลุกแต่พยายามตื่นเอง ไม่ได้หยิบโทรศัพท์มือถือมาดูว่ามีอีเมลเข้ามาหรือไม่ทุกเช้า และแทนที่ผมจะทำอย่างนั้น ผมจะไปชงชา จัดการ

ทำไมลูกน้องถึงลาออก คุณพลาดตรงไหน

รูปภาพ
คุณเคยถามตัวเองหรือทำ Exit Interview หรือไม่ เพราะอะไรพนักงานถึงลาออก คุณเป็นเจ้านายที่ดีพอ หรือยัง คุณเอาใจใส่สารทุกข์สุกดิบของลูกน้องบ้างหรือเปล่า เขามีความสุขกับการทำงานดีไหม เขาต้องการงานที่ท้าทายกว่านี้ไหม เขาต้องการพัฒนาในเรื่องใดอีก เจ้านายบางคนไม่รู้ตัวว่าทำพลาดตรงไหน ทำไมลูกน้องถึงลาออก มาดูเหตุผลกันดีกว่า ไม่เอาใจใส่ลูกน้อง ลูกน้องทุกคนต้องการให้เจ้านายเอาใจใส่ ช่วยกำหนดทิศทางการทำงาน คอยให้คำปรึกษา แนะแนวทางแก้ปัญหา หากคุณเป็นเจ้านายที่ไม่ค่อยใส่ใจลูกน้อง ไม่สนใจว่าเขาจะทุกข์หรือสุข ไม่ดุด่า แต่ก็ไม่แนะนำอะไรเพิ่มเติม หรือแม้แต่ไม่มีเวลาให้ยามที่เขาต้องการความช่วยเหลือ นั่นหมายความว่า คุณกำลังบั่นทอนความมั่นใจ และความสามารถที่เขามี ทำให้เขารู้สึกว่าไม่รู้จะอยู่ไปเพื่ออะไร ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พนักงานลาออกจากงาน งานไม่ท้าทาย ใครๆ ก็อยากสนุกกับงาน อยากทำงานที่ท้าทายความสามารถ งานที่สร้างแรงบันดาลใจทำให้อยากมาทำงานทุกวัน แต่ถ้างานน่าเบื่อก็ทำให้ชีวิตการทำงานเหี่ยวเฉา ในฐานะเจ้านายควรกระตุ้นไฟการทำงานของลูกน้องให้โชติช่วงอยู่เสมอ เพราะถ้าลูกน้องรู้สึกว่า

กิจกรรมภายในองค์กรที่พนักงานปรารถนา

รูปภาพ
1. การอบรมพนักงาน องค์กรควรสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพในการทำงานของบุคลากร ให้เขาได้รับองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาขาอาชีพของตน โดยการจัดหลักสูตรฝึกอบรมในด้านต่างๆ อย่างน้อยปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อให้บุคลากรได้ทำความรู้นั้นมาเพิ่มความเชี่ยวชาญและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในสาขาที่เกี่ยวข้อง 2. การศึกษาดูงาน เพื่อเปิดโลกทัศน์ของบุคลากรให้กว้างขวางขึ้น องค์กรควรจัดให้มีการศึกษาดูงานทั้งใน และต่างประเทศ หากไม่สามารถจัดให้กับพนักงานได้ทั้งแผนก อาจทำโดยการคัดเลือกผู้ที่มีผลงานโดดเด่น เป็นผู้ที่จะได้ไปศึกษาดูงาน เป็นการจูงใจให้พนักงานตั้งใจทำงาน ทำผลงานให้ออกมาดีที่สุด 3. การจัดทริปพักผ่อนประจำปี เป็นกิจกรรมที่บุคลากรทั้งองค์กรได้ทำร่วมกัน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในองค์กรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และบุคลากรได้พักผ่อน จากความเหน็ดเหนื่อยที่ทำงานกันมาตลอดทั้งปี 4. การจัดสวัสดิการให้แก่บุคลากร องค์กรที่มีสวัสดิการดี แม้พนักงานจะไม่ได้เงินเดือนสูงมาก แต่พนักงานก็รักที่จะทำงานให้กับองค์กร เพราะได้รับการดูแลอย่างดีในด้านต่างๆ เช่น การจัดกองทุนให้กับพนักงาน การดูแลครอบครัว บุตรห

5 ความเข้าใจผิดของมนุษย์วัยทำงาน

รูปภาพ
1. Multitask ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า และควรใช้กับทุกเรื่องในชีวิต ความเป็นจริง : คุณไม่สามารถทำเรื่องสำคัญหลายอย่างควบคู่กันได้ เพราะมันจะทำให้คุณสูญเสียการโฟกัส ไม่มีใครสามารถจัดการเรื่องสำคัญ 5 เรื่องในช่วงเวลาเดียวกันได้ ไม่มีใครสามารถให้ระดับความสนใจและใส่ใจต่อคนอื่นในฐานะคู่ชีวิตพร้อมกัน 5 คนได้ มนุษย์จึงได้นิยามคำว่า "การจัดลำดับความสำคัญ" ขึ้นมา คุณต้องแยกระดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำ ควรทำ และอยากทำ โดยเป้าหมายพันธกิจหรือสิ่งที่ต้องทำควรกำหนดและลงมือทำครั้งละหนึ่งเรื่องในหนึ่งช่วงเวลา ส่วนเรื่องที่ควรทำ และอยากทำ สามารถมีมากกว่าหนึ่งเรื่องได้ในหนึ่งช่วงเวลา 2. ต้องทำงานหนักเท่านั้นถึงจะประสบความสำเร็จ ความเป็นจริง : ชั่วโมงการทำงาน ปริมาณงานหรือระดับความจริงจัง ความตึงเครียด ในที่ทำงาน ไม่ได้และไม่เคยแปรผันตรงกับความสำเร็จในหน้าที่การงาน โลกนี้มีหลากหลายอาชีพที่ใช้เวลาน้อยแต่สร้างคุณค่าได้มาก และใช้เวลามากแต่สร้างคุณค่าได้น้อย, เงินเป็นแค่องค์ประกอบที่แปรผันตรงตามความสามารถในการสร้างคุณค่า ,สิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือ "ระดับความฉลาดและสติปัญญา" ใครที